สรุปมติที่ประชุม กทช. 32/2553

มติที่ประชุม
    คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
  ครั้งที่ 32/2553
วันจันทร์ที่  4  ตุลาคม  2553
     เวลา  09.30 น. 
  ณ ห้องประชุมชั้น 12 อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
 
 
ระเบียบวาระที่  1   :         เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
 
1.  มีหนังสือของสำนักงานศาลปกครองแจ้งขอทราบผลการดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด  ซึ่ง รทช.ฐากรฯ ได้มีหนังสือถึงศาลปกครองเพื่อขอให้ประธานศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่าเรื่องอะไรบ้างที่ กทช. สามารถดำเนินการได้และไม่ได้  และขอขอบคุณ กทช. ทุกท่านที่เห็นชอบให้มีหนังสือไปขอความเห็นก่อนที่สำนักงานศาลปกครองจะมีหนังสือสอบถามมา เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา  
2.  ประธาน กทช. และ กทช.สุรนันท์ จะไปเข้าร่วมการประชุม ITU ในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งมีผู้บริหารสำนักงาน กทช. 2 ท่าน ได้แก่ รทช.ทศพรฯ และ อกร. ได้เดินทางไปล่วงหน้าแล้ว  นอกจากนี้ ประธาน กทช.และคณะจะเข้าร่วมประชุมกับ ABU ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย ระหว่างวันที่ 15  ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2553 ดังนั้น ในระหว่างที่ประธาน กทช. ติดราชการอยู่ที่ต่างประเทศ นั้น หากมีเรื่องสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนถ้า กทช. อยู่ครบ 4 ท่านก็ให้เรียกประชุมได้ โดยเลือก กทช. ในที่ประชุมทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม
 
หมายเหตุ               ที่ประชุมได้มีการอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ในระหว่างวาระนี้ สรุปได้ดังนี้
3.  กทช.สุธรรมฯ ได้เสนอความเห็นในการแจ้งผลการดำเนินงานตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด โดยให้ชี้แจงว่าวันแรกที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งก็ได้มีการประชุมและสำนักงาน กทช. ได้สั่งการให้ระงับการดำเนินการตามคำสั่งศาล และ กทช. ได้มีมติยกเลิกมติ กทช. ที่มอบอำนาจให้สำนักงาน กทช. เป็นเจ้าพนักงานดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ในการประชุม กทช. ครั้งที่ 31/2553 และได้มีหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอทราบแนวปฏิบัติในการดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครอง ซึ่งได้ดำเนินการเป็นขั้นตอน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำวินิจฉัยของประธานศาลปกครองสูงสุด      
4.  จากนั้น ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้อย่างกว้างขวาง  สรุปสาระสำคัญได้ว่า
4.1  กทช. พันเอก นทีฯ เสนอความเห็นว่า สาระสำคัญในการแจ้งสำนักงานศาลปกครองก็คือ การระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1 GHz ตามประกาศ กทช. ตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด     ซึ่ง กทช.สุชาติฯ ได้กล่าวเสริมว่า ในการดำเนินการตามมาตรา 63 และมาตรา 64 กทช.ได้ระงับทั้งหมด สำหรับในส่วนที่เป็นรายละเอียดอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงอยู่
4.2  กทช.สุรนันท์ฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จะต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่  
1) ส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 63 ซึ่งยังไม่มีคำวินิจฉัย  แต่ได้เตรียมการไว้ แต่สิ่งที่จะต้องแจ้งไปก็คืออะไรที่เกี่ยวข้องกับการทุเลาการบังคับการอนุญาตหรือการประมูลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และ
2) มาตรา 63 ซึ่งเกี่ยวพันกับการทำงานของ กทช. จะต้องมีหนังสือสอบถามไปหรือไม่
4.3  กทช.พนาฯ ได้ให้ความเห็นว่า ควรจำกัดเฉพาะประเด็นที่สอบถาม โดยรายงานว่า กทช. และสำนักงาน กทช.  ได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองแล้ว ซึ่ง กทช.บัณฑูรฯ   เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ควรรายงานเฉพาะประเด็น 3G ว่าได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองแล้ว ไม่ควรไปกล่าวถึงประเด็นอื่น ในการนี้ กทช.บัณฑูรฯ ได้กล่าวเห็นด้วยกับแนวทางการแจ้งตอบตามความเห็น กทช.พนาฯ
4.4  ประธาน กทช. ได้กล่าวเสริมว่า ในหลักการจะต้องดำเนินการ ดังนี้  
1) รายงานผลการดำเนินงานตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดตามประเด็นที่สอบถาม  
2) ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ กทช. ซึ่งก็ได้มีหนังสือสอบถามความเห็นยื่นต่อสำนักงานศาลปกครองสูงสุดไปแล้ว
                                  หลังจากแสดงความคิดเห็นแล้ว ที่ประชุมได้มีข้อสรุปในประเด็นนี้ว่า ในการแจ้งผลการดำเนินงานตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองกลาง ตามที่สำนักงานศาลปกครองมีหนังสือขอทราบผลการดำเนินการตามคำสั่งศาลดังกล่าวมา นั้น สมควรแจ้งตอบเฉพาะประเด็น 3G ตามคำสั่งศาลเท่านั้น ไม่ต้องกล่าวถึงในประเด็นอื่น  ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการยกร่างหนังสือแจ้งตอบตามแนวทางดังกล่าวโดยด่วน โดยให้หารือ กทช.สุธรรมฯ เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และครบถ้วนถูกต้องของถ้อยคำ แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. อีกครั้งหนึ่งในวันนี้ก่อนจัดส่งต่อไป
5.  กทช.สุชาติฯ ได้สอบถามถึงกระบวนการขั้นตอนในทางศาล ซึ่ง รทช.ฐากรฯ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กทช. ได้เรียนชี้แจงให้ที่ประชุมทราบว่า ตามที่ศาลปกครองสูงสุดออกคำสั่งการบังคับคดีชั่วคราว สำนักงาน กทช. จะต้องยื่นคำให้การให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน  สำหรับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับศาลรัฐธรรมนูญ ทางศาลปกครองสูงสุดจะส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน แต่ในขณะนี้จะต้องรายงานผลการดำเนินงานตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองกลางว่า กทช. และสำนักงาน กทช. ได้ระงับการดำเนินการเรื่อง 3G แล้ว ในการนี้ ประธาน กทช. ได้กล่าวเสริมด้วยว่า ขอให้สำนักงาน กทช.ให้ความสำคัญในการจัดทำรายละเอียดของคำให้การในคดีนี้เป็นพิเศษและเร่งด่วน โดยให้หารือกับ กทช.สุธรรมฯ อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น กทช.พนาฯ ได้เสนอเพิ่มเติมว่ากรณีที่ศาลปกครองมีหนังสือแจ้งเรื่องใดๆที่เกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีในเรื่อง 3G  มา สำนักงาน กทช. ต้องรีบสำเนาเรื่องส่งให้ กทช.ทุกท่านทราบในเบื้องต้นก่อนโดยเร็ว แล้วเร่งประมวลสรุปนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาโดยด่วนต่อไป
6.  กทช.สุธรรมฯ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านกฎหมายของสำนักงาน กทช.ว่า ในขณะนี้มีคดีต่างๆ จำนวนมาก แต่มีกำลังเจ้าหน้าที่ของสำนักกฎหมายไม่มากนักที่พอจะทำคดีปกครองได้  จำเป็นต้องมีการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างสำนักกฎหมายใหม่อย่างรวดเร็ว โดยจะขอนำเรื่องนี้เสนอที่ประชุม กทช. ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ในการนี้ ประธาน กทช. และ กทช.สุรนันท์ฯ ได้กล่าวเสริมว่าที่ประชุม กทช. ได้มีมติมอบหมาย กทช. สุธรรมฯ รับผิดชอบในการปรับปรุงโครงสร้างสำนักกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ ในการพัฒนาประสิทธิภาพงานด้านกฎหมายดังกล่าว จะต้องมีโครงสร้างรองรับให้ชัดเจน และต้องมีการจัดแบ่งหรือแยกแยะงานให้เหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ ซึ่งอาจประกอบด้วย
1)  หน่วยงานที่รับผิดชอบคดีทางปกครอง และ ๒)หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องงานกฎหมายทั่วไปเช่นในปัจจุบัน นอกจากนี้  กทช.พนาฯ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่าการจัดตั้งหน่วยงาน/สำนักใหม่ นั้น ควรมีบทบาทครอบคลุมงานของสำนักกฎหมายเดิมเป็นส่วนหนึ่ง รวมทั้งจะต้องมีการจัดแบ่งงาน และมีกลไกรับผิดชอบดำเนินการและประสานงานด้านคดีด้วย สำหรับการเตรียมการกรณีคดี 3G กทช.พันเอก นทีฯ ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบอีกว่า ขณะนี้ได้ระดมความคิดนักกฎหมายในการวิเคราะห์รวบรวมรายละเอียดของประเด็นเพื่อจัดทำคำให้การยื่นต่อศาลปกครอง ซึ่งจะนำหารือ กทช.สุธรรมฯ พิจารณาความครบถ้วนและถูกต้องทางกฎหมายด้วย ทั้งนี้ คดีดังกล่าวอาจจำเป็นต้องอาศัย Law Firm มืออาชีพ เนื่องจากมีความสลับซับซ้อนไม่ใช่คดีตามปกติ
 
มติที่ประชุม            
1.  รับทราบเรื่องตามที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
2.  มอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไป   ดำเนินการต่อไป ดังนี้
2.1  ยกร่างหนังสือแจ้งตอบผลการดำเนินงานตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองกลาง  ตามที่สำนักงานศาลปกครองมีหนังสือขอทราบผลการดำเนินการตามคำสั่งศาลดังกล่าวมาโดยให้แจ้งตอบเฉพาะประเด็น 3G ตามคำสั่งศาลเท่านั้น ไม่ต้องกล่าวถึงในประเด็นอื่น ทั้งนี้ ให้หารือ กทช. สุธรรมฯ  เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และครบถ้วนถูกต้องของถ้อยคำ แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. อีกครั้งหนึ่งในการประชุมวันนี้ก่อนจัดส่งโดยด่วนต่อไป
2.2  กรณีที่ศาลปกครองมีหนังสือแจ้งเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีในเรื่อง 3G  มาให้สำนักงาน กทช. ต้องรีบสำเนาเรื่องส่งให้ กทช.ทุกท่านทราบในเบื้องต้นก่อนโดยเร็ว แล้วเร่งประมวลสรุปนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาต่อไปโดยด่วน
2.3  ให้สำนักงาน กทช.ให้ความสำคัญในการจัดทำรายละเอียดของคำให้การในคดี 3G เป็นพิเศษและเร่งด่วน โดยให้หารือกับ กทช.สุธรรมฯ และกทช.พันเอกนทีฯ อย่างใกล้ชิด แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาต่อไป
3.  มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ เร่งดำเนินการพิจารณาจัดทำข้อเสนอการการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านกฎหมายของสำนักงาน กทช. โดยเฉพาะความจำเป็นต้องมีการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างสำนักกฎหมาย เพื่อรองรับอรรถคดีต่างๆ จำนวนมาก แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช.ในช่วงเดือนตุลาคม 2553 นี้
 
หมายเหตุ               สำนักงาน กทช.ได้ดำเนินการตามมติ กทช. ข้อ 2.1 โดยนำเสนอร่างหนังสือแจ้งตอบผลการดำเนินงานตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองกลาง ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของ กทช.สุธรรมฯ แล้ว ให้ที่ประชุม กทช.พิจารณาในการประชุมครั้งนี้ และที่ประชุม กทช. เห็นชอบด้วยก่อนจัดส่งโดยด่วนต่อไป
 
ระเบียบวาระที่  2  :     รับรองรายงานการประชุม กทช. ครั้งที่ 31/2553 วันจันทร์ที่ 27 และวันพุธที่ 29 กันยายน 2553
 
มติที่ประชุม             รับรองมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 31/2553 วันจันทร์ที่ 27 และวันพุธที่ 29 กันยายน 2553  ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ 
 
ระเบียบวาระที่  3  :     รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 31/2553 วันจันทร์ที่ 27 และวันพุธที่ 29 กันยายน 2553        
                                   
หมายเหตุ                 เนื่องจากกำหนดวันประชุม กทช. ครั้งที่ 32/2553 เป็นวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2553  ซึ่งเร็วขึ้นกว่ารอบการประชุมปกติที่กำหนดไว้เป็นทุกวันพุธของสัปดาห์ จึงไม่อาจรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 31/2553  วันจันทร์ที่ 27  และวันพุธที่ 29 กันยายน 2553 ได้ทัน ในการนี้ สำนักงาน กทช. จะได้นำเสนอรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 31/2553 ต่อที่ประชุม กทช.ในการประชุมครั้งต่อไป
 

ระเบียบวาระที่   4     :   เรื่องเพื่อพิจารณา   
ระเบียบวาระที่  4.1   :   อัตราขั้นสูงใหม่ของค่าบริการโทรคมนาคม ตามประกาศ กทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการการเรียกเก็บเงินค่าบริการล่วงหน้าในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549  (วาระที่ 4.8 ครั้งที่ 13/2553)  : กทช.สุธรรมฯ, กทช.สุรนันท์ฯ, รทช.พิทยาพลฯ, ศฐ. 

 
มติที่ประชุม                
1.  รับทราบรายงานผลการคำนวณอัตราขั้นสูงใหม่ของค่าบริการด้วยวิธีอัตราค่าตอบแทนการลงทุน (Rate of Return : ROR) ตามข้อ 8 ของประกาศ กทช. เรื่องอัตราขั้นสูงของค่าบริการและการเรียกเก็บเงินค่าบริการล่วงหน้าในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549  สำหรับผู้ประกอบการ จำนวน 7 ราย  ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2.  โดยที่ปัจจุบันการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าบริการ เป็นการคำนวณด้วยวิธี ROR หรือคิดจากอัตราค่าตอบแทนการลงทุน (Rate of return) หรือค่า WACC (Weighted Average Cost of Capital) โดยใช้แหล่งข้อมูลจากรายงานข้อมูลบัญชีโทรคมนาคม (Thailand Uniform System of Accounts – TUSOA)  ซึ่งนับเป็นเพียงจุดเริ่มต้น จำเป็นต้องมีการดำเนินการด้วยวิธีการที่เหมาะสมและสามารถสะท้อนต้นทุนจริงของผู้ประกอบการในการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าบริการที่ยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้บริการบนพื้นฐานของการแข่งขันที่ต้นทุนได้มากยิ่งขึ้น แม้การเข้าถึงข้อมูลต้นทุนที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์และคำนวณ ตลอดจนการเข้าถึงฐานข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องยังมีข้อจำกัดและไม่ชัดเจนอยู่มาก อาทิ ข้อมูลส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) จากสัญญาสัมปทานที่ยังมิได้แยกเป็นรายบริการให้ชัดเจน ทำให้เกิดการ Cross-subsidy ระหว่างบริการขึ้น และเป็นภาระกับประชาชนโดยไม่จำเป็น จึงควรต้องแยกรายได้จากสัญญาสัมปทานเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ให้ชัดเจน ในการนี้ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้สำนักงาน กทช.รับประเด็นข้อคิดเห็นที่ประชุมข้างต้นไปพิจารณาดำเนินการในการศึกษาต้นทุนค่าบริการโทรคมนาคมแบบ Bottom- up Model ที่เป็นแบบจำลองต้นทุนของผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ (Hypothetical Firm) เพื่อใช้เป็นค่า Base line ในการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าบริการจากต้นทุนของค่าบริการ โดยแยกเป็นรายบริการ (Itemized Tariff/sub-sector) แล้วนำเสนอผลการดำเนินการในเบื้องต้นต่อที่ประชุม กทช. เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการประชุมครั้งต่อไป
 
ระเบียบวาระที่    4.2     :   ระงับคำสั่งทางปกครองตามมติที่ประชุม กทช. เรื่อง การพิจารณากำหนดค่าปรับจากการเปิดบริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เกินกำหนดไม่สอดคล้องกับหลักกฎหมาย : กทช.สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม               ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า โดยที่เรื่องการกำหนดค่าปรับทางปกครองกรณีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่เปิดให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ กทช. ได้มีการพิจารณาเป็นที่ยุติเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับใช้ตามมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 28/2553 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2553 อย่างไรก็ดี ผลการบังคับใช้ดังกล่าวจะครบกำหนด 30 วัน ในวันที่ 15 ตุลาคม 2553 ดังนั้น จึงมีมติให้สำนักงาน กทช.รับความเห็น กทช.สุธรรมฯ ในเรื่องนี้กรณีการพิจารณากำหนดค่าปรับจากการเปิดบริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เกินกำหนดไม่สอดคล้องกับหลักกฎหมายไปประกอบการพิจารณาการจัดทำข้อเสนอการกำหนดค่าปรับทางปกครองในครั้งต่อไปเสนอที่ประชุมพิจารณา อนึ่ง หากผู้ประกอบการมีการยื่นคำอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองตามมติครั้งที่ 28/2553 ให้สำนักงาน กทช.รีบดำเนินการประมวลเรื่องนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาโดยด่วนต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.3     :   รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช.  :  กทช.สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม            
1.  เห็นชอบตามข้อเสนอของ กทช.สุธรรมฯ ในการติดตามเร่งรัดการดำเนินการตามที่ กทช.มีมติตามรูปแบบรายงานการติดตามมติ กทช. ดังรายละเอียดตัวอย่างที่เสนอตามเอกสารที่แนบประกอบวาระ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามระเบียบ กทช. ว่าด้วยการปฏิบัติตามคำสั่ง กทช. พ.ศ. 2553 ข้อ 5 วรรคหนึ่ง และข้อ 10 วรรคหนึ่ง ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กทช. โดยสำนักปฏิบัติการและติดตามประเมินผลเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการติดตามมติ กทช.ให้เป็นไปตามข้อเสนอของ กทช.สุธรรมฯ ข้างต้น แล้วรายงานผลให้ที่ประชุม กทช. ทราบทุกเดือน ซึ่งจะมีรายละเอียดระบุให้เห็นว่าเรื่องที่ กทช. มีมติแล้วสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาตามระเบียบหรือไม่ และหากในกรณีที่ดำเนินการแล้วเสร็จให้อ้างอิงผลการดำเนินงาน เช่น เลขที่และวันที่ของหนังสือที่แจ้งบุคคลภายนอก เป็นต้น
2.  อนุมัติให้เพิ่มเติมเจ้าหน้าที่สำนักงาน กทช. ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและติดตามประเมินผล  (นางดวงเดือน เสวตสมบูรณ์) เข้าร่วมการประชุม กทช. ได้อีก 1 คน เพื่อรับทราบมติที่ประชุม กทช. ในแต่ละเรื่อง พร้อมติดตามและประสานงานสำนักและกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินงานให้เป็นไปตามมติที่ประชุม กทช. ทั้งนี้ ตั้งแต่การประชุม กทช. ครั้งที่ 33/2553 เป็นต้นไปตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
 
ระเบียบวาระที่     4.4     :    แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของสำนักงาน กทช.  :  กทช.บัณฑูรฯ
 
มติที่ประชุม              
1.  เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของสำนักงาน กทช. โดยมีอำนาจหน้าที่ และองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ  ตามที่ กทช.บัณฑูรฯ เสนอ  ได้แก่
1.1  เลขาธิการ กทช.                                 ประธานกรรมการ
1.2  รทช. (นายทศพร เกตุอดิศร)                  รองประธานกรรมการ
1.3  พลเรือเอก ฐนิธ กิตติอำพน                    กรรมการ
1.4  พันเอก รุจโรจ วัยวุฒิ                           กรรมการ
1.5  นายทวีเกียรติ ศรีสกุลเมฆี                     กรรมการ
1.6  นายวิชัย  เตชะเกิดกมล                        กรรมการ
1.7  นางวิจิตรา  พลับประสิทธิ์                      กรรมการ
1.8  นางสาวอัญชลี  เจิดรังษี                        กรรมการ
1.9  นางยุพา จันทร์กระจ่าง                          กรรมการ
1.10นางบายศรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา               กรรมการและเลขานุการ
1.11นายชูศักดิ์ วิบูลย์                                  ผู้ช่วยเลขานุการ
 
                            ทั้งนี้  ให้การแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2553 เป็นต้นไป และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไประเบียบ กทช. ว่าด้วยวิธีการประชุมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และค่าตอบแทน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อไป โดยในส่วนของคณะกรรมการที่เป็นบุคคลภายนอก ให้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนค่าเบี้ยประชุมในอัตราครั้งละ 5,000 บาท ตามข้อ 18 (ค) ของระเบียบดังกล่าว
2.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เสนอประธาน กทช. ลงนามโดยด่วนต่อไป 
 
ระเบียบวาระที่  4.6   :   ศูนย์ประสานงานกิจการพิเศษ กรมราชองครักษ์ ขอรับการสนับสนุนเครื่องรับส่งวิทยุชนิดมือถือ :  กทช. พันเอก นทีฯ
 
มติที่ประชุม            อนุมัติในหลักการการขอรับการสนับสนุนเครื่องรับส่งวิทยุชนิดมือถือของศูนย์ประสานงานกิจการพิเศษ  กรมราชองครักษ์  ตามที่ กทช. พันเอก นทีฯ เสนอ  ทั้งนี้ โดยให้ส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการพิจารณางบประมาณและติดตามการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 พิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียดของโครงการและการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้ความเห็นก่อนนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตามมติหลักการที่ กทช. เห็นชอบกำหนดไว้ในการประชุมครั้งที่ 29/2553
 
 
ระเบียบวาระที่   4.7  :   ร่างประกาศ กทช. ว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. .... (ฉบับที่ห้า)  และคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่างประกาศฯ :  กทช.สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม                
1.  รับทราบร่างประกาศ กทช. ว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. .... (ฉบับที่ห้า) และคำสั่ง กทช.ที่ 29/2553 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแก้ไข (ร่าง) ประกาศ กทช. ว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. ....  ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
2.  อนุมัติการแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมในคณะกรรมการพิจารณาแก้ไข (ร่าง) ประกาศ กทช. ว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. ....  ได้แก่  ศาสตราจารย์(พิเศษ) สุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุล  ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ ทั้งนี้ ให้แนบข้อมูลประวัติของศาสตราจารย์(พิเศษ) สุชาติฯ  เป็นเอกสารประกอบให้ครบถ้วนด้วย
3.  อนุมัติให้คณะกรรมการพิจารณาแก้ไข (ร่าง) ประกาศ กทช. ว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. .... ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้รับค่าตอบแทนค่าเบี้ยประชุมในอัตราครั้งละ 5,000 บาท ตามข้อ 18 (ค) ของระเบียบ กทช. ว่าด้วยวิธีการประชุมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการและค่าตอบแทน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   4.8     :   รายชื่อและค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ : รทช.ฐากรฯ, ปต.
 
มติที่ประชุม                 ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่าโดยที่ข้อมูลที่สำนักงาน กทช. รวบรวมนำเสนอยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน อาทิ ยังขาดคณะกรรมการกำหนดนโยบายด้าน USO และคณะกรรมการมาตรฐาน กทช. เป็นต้น ประกอบกับเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนำเสนอ กทช.พิจารณาได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงมีมติมอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลรายชื่อและค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ ให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งจัดหมวดหมู่ประเภทคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่ กทช. แต่งตั้งให้ชัดเจน อาทิ  คณะกรรมการที่ กทช. แต่งตั้งตามกฎหมาย/ระเบียบ/ประกาศ และคณะกรรมการที่ กทช. แต่งตั้งโดยมติ กทช. เป็นต้นรวมถึงให้แยกลักษณะค่าตอบแทนที่เป็นรายเดือน หรือเป็นค่าเบี้ยประชุม พร้อมอัตราที่ได้รับของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการด้วย แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
 
ระเบียบวาระที่   4.9    :    คำสั่งรับคำชี้แจงของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแนบไว้ในสำนวนคดีปกครองเพิ่มเติม  :  รทช.ฐากรฯ, กม.        
 
มติที่ประชุม              มอบหมายให้สำนักงาน กทช. นำรายละเอียดเรื่องนี้ พร้อมหนังสือหารือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปหารือ กทช.สุธรรมฯ เพื่อพิจารณาให้เกิดความรอบคอบ และถูกต้องเหมาะสมอีกครั้งหนึ่งก่อนที่สำนักงาน กทช. จะดำเนินการต่อไป
 
ระเบียบวาระที่    4.13     :   บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขอให้ กทช. กำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบของการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน  :  สชท.
 
มติที่ประชุม            
1.  โดยที่ กทช. ไม่มีอำนาจยกเว้นการกำหนดหน้าที่หรือยกเว้นสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมได้  ทั้งนี้ ตามมาตรา 25  และมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544  ประกอบกับค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการอื่นซึ่ง กทช. ไม่ใช่คู่สัญญาที่จะแก้ปัญหาหรือไม่สามารถบังคับได้  ดังนั้น  ที่ประชุมจึงมีมติยกคำร้องของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ขอให้ กทช. กำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบของการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานตามหนังสือที่ TRUE/REG/034/2553 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2553  ตามความเห็นกรรมการกลั่นกรอง และข้อเสนอของสำนักงาน กทช.  ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาข้างต้นให้บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทราบต่อไป
2.  เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐานที่มีแนวโน้มหดตัวลงต่อเนื่อง และส่งผลให้รายได้จากบริการด้านนี้ลดลงอย่างเห็น ได้ชัด ดังนั้น เพื่อให้บริการดังกล่าวสามารถปรับตัวและแข่งขันต่อไปได้ จึงมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปพิจารณาศึกษาวิเคราะห์ถึงความจำเป็นของการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน  ตลอดจนความเหมาะสมของอัตราค่าธรรมเนียมเลขหมายโทรคมนาคมพื้นฐานที่จะมีผลกระทบต่อรายได้ รวมทั้งข้อเสนอแนะมาตรการ Subsidy การให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานผ่านทางกลไกด้านต่างๆ  อาทิ ด้าน USO ฯลฯ  แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาภายใน 30 วัน
 
ระเบียบวาระที่   4.14      :   ข้อร้องเรียนของนายอนุภาพถิรลาภ กรณีบริษัท ทรูมูฟ จำกัด กำหนดระยะเวลาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า (เติมเงิน) : สบท. 
 
มติที่ประชุม            
1.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า โดยที่ กทช. ได้มีมติรับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาตามความเห็นของ กทช. สุธรรมฯ ในการประชุม กทช. ครั้งที่ 11/2553 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2553 เรื่อง การปฏิบัติตามประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549  ไปแล้ว  ดังนั้น จึงมีมติมอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้งบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ให้ทราบคำสั่งตามมติดังกล่าว และให้บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ปฏิบัติตามข้อ 11 ของประกาศ กทช.เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 อย่างเคร่งครัด
2.  มอบหมายให้ สบท. หารือ กทช.สุธรรมฯ ในการแจ้งคำสั่งตามมติ กทช. ครั้งที่ 11/2553 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2553 เรื่อง การปฏิบัติตามประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549  ให้ผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้าทราบและถือปฏิบัติต่อไป     
                                   
ระเบียบวาระที่   4.15    :   ข้อร้องเรียนของนายสมเกียรติ เขียวชุ่ม กรณีบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ทำการตัดสัญญาณโทรศัพท์ เคลื่อนที่เมื่อใช้บริการถึงประมาณ 120 นาที  :  สบท. 
 
มติที่ประชุม            
1.  ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถพิสูจน์หักล้างข้อร้องเรียนของนายสมเกียรติ เขียวชุ่ม กรณีบริษัทฯ ทำการตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เมื่อใช้บริการถึงประมาณ 120 นาที ไม่ว่าจะเป็นการโทรออกหรือรับสายเรียกเข้า เป็นเหตุให้ผู้ร้องเสียสิทธิในการใช้บริการ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบตามความเห็นคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยให้บริษัท บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ระงับการตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เมื่อใช้บริการถึงประมาณ 120 นาที โดยให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงระบบให้สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องตามที่ผู้ใช้บริการต้องการ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และข้อ 13 ของประกาศ กทช. เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม
2.  มอบหมายให้ สบท.มีหนังสือแจ้งบังคับให้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  ดำเนินการให้เป็นไปตามมติที่ประชุมตามข้อ 1 ต่อไป
                                   
ระเบียบวาระที่   4.16    :   บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สกทช.) กับ กองบังคับการปรามปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บก.ปคบ.)    : สบท. 
 
มติที่ประชุม                เห็นชอบในหลักการให้สำนักงาน กทช. จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กับ กองบังคับการปรามปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บก. ปคบ.) ตามที่สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมเสนอ  สำหรับรายละเอียดในเรื่อง การสนับสนุนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ บก.ปคบ. อาทิ การสนับสนุนด้านงบประมาณ ความร่วมมือด้านวิชาการ เป็นต้น รวมถึงเรื่อง การแต่งตั้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของ บก. ปคบ. เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจดำเนินการตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 นั้น มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินการต่อไป
 
ระเบียบวาระที่    4.17     :   การดำเนินโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง ITU  และ สกทช. :  สพท.
 
มติที่ประชุม                 อนุมัติโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และสำนักงาน กทช. ในการจัดสัมมนาและฝึกอบรมในเรื่อง Next Generation Network, Broadband Access, Short Range Communication, Optical Communication, Universal Service Obligation จำนวน ๓ ครั้ง กำหนดระยะเวลา 1 ปี นับจากวันลงนามความร่วมมือ ภายในกรอบวงเงินงบประมาณ 2,000,000 บาท ตามที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    4.21    :   ขอรับนโยบายการพิจารณาคำขอรับจัดสรรเลขหมายฯ พิเศษของหน่วยงานเชิงพาณิชย์ : รทช.ประเสริฐฯ, กบ.
 
มติที่ประชุม            อนุมัติการจัดสรรเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษฯ ของหน่วยงานเอกชนตามความเห็นคณะกรรมการเลขหมายโทรคมนาคม จำนวน 15 หน่วยงาน  ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ โดยให้หน่วยงานเอกชนทั้ง 15 ราย ปฏิบัติตามประกาศ กทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ.2551  โดยเคร่งครัดต่อไป ดังนี้
1.  จัดสรรเลขหมาย 1773 ให้แก่ บจ.ตั้งธนสิน        
2.  จัดสรรเลขหมาย 1776 ให้แก่ ร.พ.มหาชัย         
3.  จัดสรรเลขหมาย 1778 ให้แก่ บจ.มิยาโกะ คอสเมติกส์      
4.  จัดสรรเลขหมาย 1779 ให้แก่ บจ.อินเตอร์ไดเร็คท์ เอ็กคลูซีพ   
5.  จัดสรรเลขหมาย 1780 ให้แก่ บจ.แอล ซี ดีไลท์    
6.  จัดสรรเลขหมาย 1783 ให้แก่ บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์     
7.  จัดสรรเลขหมาย 1788 ให้แก่ บจ.ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง     
8.  จัดสรรเลขหมาย 1791 ให้แก่ บจ.กลางประกันภัย     
9.  จัดสรรเลขหมาย 1792 ให้แก่ ร.พ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (ร.พ.ศรีวิชัย  3 อ้อมน้อย)     
10.จัดสรรเลขหมาย 1793 ให้แก่ บจ.ดีแลนด์ กรุ๊ป       
11.จัดสรรเลขหมาย 1794 ให้แก่ บจ.บาร์โคนี่  
12.จัดสรรเลขหมาย 1795 ให้แก่ บจ.ทีซีที เอสเซสโซรี่    
13.บมจ.ฟอลคอนประกันภัย ให้ใช้งานเลขหมาย 1748 ร่วมกับ บมจ. นวกิจประกันภัย เนื่องจากเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน
14.บมจ.ร.พ.เจ้าพระยา ให้ใช้งานเลขหมาย 1776 ร่วมกับ ร.พ.มหาชัย เนื่องจากเป็นหน่วยงานในเครือเดียวกัน
15.จัดสรรเลขหมาย 1796 ให้แก่ บจ.แอล เอ็มเอส กรุ๊ป
 
                            ทั้งนี้  สำหรับหน่วยงานเชิงพาณิชย์ที่ได้ยื่นคำขอ และสำนักงาน กทช.อยู่ระหว่างการพิจารณาอีกจำนวน 13 ราย นั้น เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนแล้วเสร็จ ก็ให้เสนอ กทช.พิจารณาต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.32  :   การสิ้นสุดการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่หนึ่ง บริษัท ไทยเทรดเน็ท และ บริษัท เทคโนเวทโซลูชั่นส์ จำกัด : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม                
1.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่าการขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง ของบริษัท ไทยเทรดเน็ท ไม่มีผลกระทบในการหยุดให้บริการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันไม่มีผู้ใช้บริการแล้ว และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามข้อ 26 (3) ของเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่หนึ่ง  ตามประกาศ กทช. เรื่อง เงื่อนไขมาตรฐานในการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ดังนั้น จึงมีมติอนุมัติการสิ้นสุดใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง ของบริษัท ไทยเทรดเน็ท ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2.  สำหรับกรณี บริษัท เทคโนเวท โซลูชั่นส์ จำกัด นั้น เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ดำเนินการต่อใบอนุญาตและไม่ได้รายงานการเปิดให้บริการและไม่ยื่นต่ออายุใบอนุญาตตามเงื่อนไขในการอนุญาต จึงเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 9 วรรคห้าแห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544  และข้อ 26 (1) ของเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่หนึ่ง ตามประกาศ กทช. เรื่อง เงื่อนไขมาตรฐานในการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติการสิ้นสุดการอนุญาตด้วยเหตุของการขาดต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่หนึ่ง ของบริษัท เทคโนเวทโซลูชั่นส์ จำกัด ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ และให้สำนักงาน กทช. บันทึกรายชื่อบริษัทฯ ในบัญชีรายชื่อผู้ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนเงื่อนไขในการอนุญาตเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอื่นๆ ต่อไปในอนาคต
3.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อสังเกตของ กทช.สุรนันท์ฯ กรณีผู้ประกอบการประสบปัญหาไม่สามารถประกอบกิจการตามที่ได้รับอนุญาตได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น นั้น ไปศึกษาวิเคราะห์ในภาพรวมของตลาดการประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง ว่ามีสภาพข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรในขณะนี้ และปัญหาที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปไม่ได้เกิดจากสาเหตุใด อาทิ อาจเกิดความไม่สะดวกในการประกอบกิจการ (Bottle Neck) ในประเด็นใดหรือไม่ อย่างไร แล้วนำเสนอ กทช. ต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.34   :   การตรวจสอบการให้บริการบัตรโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ของบริษัท เอเชีย เทเลพอร์ท จำกัด : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม                
1.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า เนื่องจาก บริษัท เอเชีย เทเลพอร์ท จำกัด   ไม่สามารถเริ่มให้บริการภายในระยะเวลาที่กำหนด เป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง ข้อ 3 และมติที่ประชุมครั้งที่ 8/2553  ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติการสิ้นสุดใบอนุญาตประกอบกิจการของ บริษัท เอเชีย เทเลพอร์ท จำกัด ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ  ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อ 25  ของเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง ตามประกาศ กทช. เรื่อง เงื่อนไขมาตรฐานในการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และตามข้อ 26 (1) และ (6) ของเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง ตามประกาศ กทช. ดังกล่าว
2.  ให้สำนักงาน กทช.ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศฯ โดยให้บันทึกประวัติของบริษัทฯ ไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม เพื่อเป็นแนวทางและมาตรการในการกำกับผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตต่อไป
3.  กรณีที่ผู้รับใบอนุญาตกระทำการฝ่าฝืนตามข้อ ๒๕ ของเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง ตามประกาศ กทช. เรื่อง เงื่อนไขมาตรฐานในการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม นั้น ผู้รับใบอนุญาตที่กระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตดังกล่าว โดย กทช. มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาต จะขาดคุณสมบัติไม่สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตได้อีก ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กทช. รับทราบ และมีความเข้าใจให้ถูกต้อง ตรงกัน ในประเด็นดังกล่าวด้วย เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอื่นๆต่อไปในอนาคต
 
ระเบียบวาระที่   4.51    :   โครงการงานจ้างที่ปรึกษาโครงการการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ประจำปี 2553  :  คณะกรรมการติดตามและประเมินผลฯ
 
มติที่ประชุม             อนุมัติในหลักการการจ้างที่ปรึกษาโครงการการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ประจำปี 2553  ตามที่คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. เสนอ ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณโครงการ มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณางบประมาณและติดตามการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๕๓ พิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ก่อนดำเนินการในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุต่อไป
 
หมายเหตุ               ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาที่เหลือ  ได้แก่  วาระที่ 4.5, 4.10 – 4.12, 4.18 – 4.20, 4.22 – 4.31,  4.33 และ 4.35 - 4.50 จะได้นำเสนอในการประชุม กทช. ครั้งต่อไป
 
 
ระเบียบวาระที่   5       :  เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่   5.1    :   คำสั่งศาลไม่รับฟ้องในส่วนที่ฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3  : ประธาน กทช.

 
มติที่ประชุม  
            รับทราบคำสั่งศาลไม่รับคำฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ 818/2553 ระหว่าง นางสาวกนกอร ฉวาง  ผู้ฟ้องคดี กับสำนักงาน กทช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เลขาธิการ กทช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และประธาน กทช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3   ในส่วนที่ฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ไว้พิจารณา เนื่องจากถือว่าผู้ฟ้องคดีมิได้เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากการกระทำหรือการงดเว้นการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่จะมีสิทธิฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ต่อศาล ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ตามเอกสารที่ประธาน กทช. เสนอ   
 
ระเบียบวาระที่   5.2   :  Personal Invitation to the Ministerial Programme, GSMA Mobile World  Congress 14th – 16th February 2011, Barcelona, Spain :  ประธาน กทช.
 
มติที่ประชุม               รับทราบการการเชิญ ประธาน กทช. เข้าร่วมการประชุม   Personal Invitation to the Ministerial Programme, GSMA Mobile World  Congress 14th – 16th February 2011, Barcelona, Spain  ตามเอกสารที่ประธาน กทช. เสนอ   
 
ระเบียบวาระที่   5.3   :  ITU Telecom World 2011, taking place from 24 – 28 October 2011 in Geneva, Switzerland  :  ประธาน กทช.
 
มติที่ประชุม              รับทราบการการเชิญ ประธาน กทช. และสำนักงาน กทช. เข้าร่วมการประชุม ITU Telecom World 2011, taking place from 24 – 28 October 2011 in Geneva, Switzerland  ตามเอกสารที่ประธาน กทช. เสนอ   
 
ระเบียบวาระที่   5.4    :    สัมมนาเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อการลงนาม พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการ ชุดที่ 8 และร่างตารางข้อผูกพัน ชุดที่ 8 ของไทยในกรอบอาเซียน : ประธาน กทช.
 

มติที่ประชุม                 รับทราบเรื่อง กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ขอเชิญประธาน กทช.  และหรือผู้แทนเข้าร่วมการสัมมนาเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อการลงนาม พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการ ชุดที่ 8 และ ร่างตารางข้อผูกพัน ชุดที่ 8 ของไทยในกรอบอาเซียน ซึ่งประธาน กทช. ได้สั่งการให้สำนักงาน กทช. จัดส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการสัมมนาดังกล่าว ในวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน 2553  ตามเอกสารที่ประธาน กทช. เสนอ   
 
  
ระเบียบวาระที่   5.5   :   แจ้งรายงานการเดินทางเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การลงทุนในประเทศไทย (Thailand Roadshow and Investor’s Day)  ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ในวันที่ 23 สิงหาคม 2553  :  กทช.สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม                รับทราบรายงานผลการเดินทางของ กทช.สุธรรมฯ และคณะ ในการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การลงทุนในประเทศไทย (Thailand Roadshow and Investor’s Day)  ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ในวันที่ 23 สิงหาคม 2553  ตามเอกสารที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.6   :   รายงานผลการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2554  :  รทช.ฐากร, กม.
 
มติที่ประชุม               รับทราบรายงานผลการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม   พ.ศ.2544  ประจำเดือนสิงหาคม 2553 กรณี บจ.ทีทีแอนด์ที ซับสไครเบอร์ เซอร์วิสเซส ไม่มาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือเรียก  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.7     :   รายงานผลการพิจารณาร่างสัญญาให้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนอัตโนมัติ ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) กับ บริษัท เวียดนามโมบาย คอมมิวนิเคชั่น เซนเทอร์ ประเทศเวียดนาม และบริษัท TELUS คอมมูนิเคชั่น คอมพานี ประเทศแคนาดา : รทช.ฐากร, กม.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานผลการพิจารณาร่างสัญญาให้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนอัตโนมัติ ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) กับบริษัท เวียดนามโมบาย คอมมิวนิเคชั่น เซนเทอร์ ประเทศเวียดนาม และบริษัท TELUS คอมมูนิเคชั่น คอมพานี ประเทศแคนาดา ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาแล้ว  ทั้งนี้ ตามมติ  กทช. ครั้งที่ 6/2552 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.8    :   รายงานผลการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประชุมกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ....”  : รทช.ฐากร, กม.
 
มติที่ประชุม              รับทราบรายงานผลการประชุมสภาผู้แทนราษฎร  เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553  เรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประชุมกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ....”  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ  
 
ระเบียบวาระที่   5.9     :   รายงานผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498  : รทช.ฐากร, กม.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้แต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต หรือมอบหมายให้เลขาธิการ กทช. ปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ประจำเดือนสิงหาคม 2553  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.10    :   รายงานผลความคืบหน้าของโครงการในปีงบประมาณ 2553  : รทช.ฐากร, ปต.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานผลความคืบหน้าของโครงการในปีงบประมาณ 2553 (ตั้งแต่เดือน มกราคม –กรกฎาคม 2553) ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่ 5.11     :   การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโทรคมนาคมของผู้ประกอบการ (รายการส่งเสริมการขายระหว่างวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ถึง 13 กันยายน 2553) : รทช.ทศพร, ศฐ.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโทรคมนาคมของผู้ประกอบการ  จำนวน 6 ราย (รายการส่งเสริมการขาย ระหว่างวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ถึง 13 กันยายน 2553) ซึ่งเป็นไปตามข้อ 12 ของประกาศ กทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการและการเรียกเก็บเงินค่าบริการล่วงหน้าในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอดังนี้
1.  การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโทรศัพท์ประจำที่และโทรศัพท์พื้นฐานใช้นอกสถานที่ของ บมจ.ทรู  คอร์ปอเรชั่น 
2.  การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส  บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น บจ.ทรูมูฟ  บมจ.กสท โทรคมนาคม และ บมจ.ทีโอที
3.  การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของ บมจ.ทีโอที             
ระเบียบวาระที่ 5.12  : รายงานการเข้าร่วมการประชุม  “ITU-Afghanistan, Bangladesh, Bhutan, Maldives and Nepal (ABBMN) Ministerial Forum, Digital Inclusion : Connecting Responsibly” ณ ประเทศมัลดีฟส์ : รทช.พิทยาพล, ทถ.
 
มติที่ประชุม                รับทราบสรุปผลรายงานการเข้าร่วมการประชุม “ITU-Afghanistan, Bangladesh, Bhutan, Maldives and Nepal (ABBMN) Ministerial Forum, Digital Inclusion : Connecting Responsibly” ณ ประเทศมัลดีฟส์ ในระหว่างวันที่ 3–5 สิงหาคม 2553  ตามเอกสารที่ สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.13   :   การอนุญาตให้ใช้ความถี่วิทยุสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : รทช.ประเสริฐ, ฉก.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบข้อเสนอแนะการใช้ความถี่วิทยุสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เป็นไปอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.14  :  รายงานผลการสอบทานงบการเงินและงบการเงินของ สบท. ประจำปี 2553 ครั้งที่ 1/2553  ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553  : สบท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานผลการสอบทานงบการเงินและงบการเงินของ สบท. ประจำปี 2553 ครั้งที่ 1/2553 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 โดยบริษัท นิลสุวรรณ จำกัด ซึ่งดำเนินการตามระเบียบ กทช. ว่าด้วยการจัดตั้งสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2550  ตามเอกสารที่สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เสนอ 
 
ระเบียบวาระที่   5.15   :  รายงานการรับเรื่องร้องเรียนประจำเดือนกันยายน 2553  ครึ่งเดือนแรก  : สบท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานการรับเรื่องร้องเรียนประจำเดือนกันยายน 2553  ครึ่งเดือนแรก จำนวน 150 เรื่อง เรื่องที่ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 11 เรื่อง  เรื่องที่อยู่ในระหว่างดำเนินการจำนวน 139 เรื่อง  ตามเอกสารที่สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เสนอ 
 
ระเบียบวาระที่   5.16   :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทประจำข้อพิพาทที่ 5/2551 : สชท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม  2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 5/2551  ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.17    :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทประจำข้อพิพาทที่ 6/2551 : สชท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม  2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 6/2551  ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.18  :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทประจำข้อพิพาทที่ 2/2552 : สชท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม  2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 2/2552  ระหว่าง บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.19    :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทประจำข้อพิพาทที่ 1/2553 : สชท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม  2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 1/2553  ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทรู มูฟ  จำกัด  ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.20   :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทประจำข้อพิพาทที่ 2/2553 : สชท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม  2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 2/2553  ระหว่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  และ บริษัท  ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.21     :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทประจำข้อพิพาทที่ 3/2553 : สชท.
 
มติที่ประชุม                 รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนสิงหาคม 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 2/2553  ระหว่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท  ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช.ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67  ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ

ระเบียบวาระที่   5.22    :  รายงานผลการตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิด  : กทช.พนาฯ,  คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
 
มติที่ประชุม                  รับทราบรายงานผลการตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 3 ราย ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498  และพระราชบัญญัติการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551  ตามเอกสารที่ กทช.พนาฯ เสนอ
 

ระเบียบวาระที่    6       :   เรื่องอื่นๆ
ระเบียบวาระที่    6.1    :   รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน 2553    : คณะกรรมการติดตามและประเมินผลฯ

 
มติที่ประชุม            
1.  รับทราบรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน 2553  ตามที่คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. เสนอ
2.  มอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ไปพิจารณาจัดทำเป็น Action Plan เพื่อกำหนดแผน/กิจกรรมในการดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาโดยเร็วต่อไป  ประกอบด้วย 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 
2.1  ด้านการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการ และเงินอุดหนุนให้กองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
2.2  ด้านการบริหารงบประมาณ ได้แก่ คำขอตั้งงบประมาณตามโครงการ โดยหน่วยงานที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบโครงการนั้น และระบบการรายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
2.3  การตรวจสอบภายใน
2.4  การตรวจรับงานจัดซื้อจัดจ้างที่มีความล่าช้า
2.5  ระเบียบพัสดุของ กทช. ที่เกี่ยวกับการจ้างโดยวิธีตกลงไม่ชัดเจน
3.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย อาทิ ในเรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2553 ที่วางไว้ การบริหารจัดการเงินกองทุนค่าธรรมเนียม USO อย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาปรับปรุงระบบบัญชีให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น เป็นต้น        
4.  มอบหมายให้คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุม เพื่อพิจารณาดำเนินการแล้วนำเสนอ กทช. ต่อไป ได้แก่
4.1 พิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะในกรณีที่ สำนักงาน กทช. จะดำเนินการ Restructure องค์กรเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน  เกิดการประสานนโยบายระหว่าง กทช. และสำนักงาน กทช.ในการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
4.2 ในประเด็นเรื่องการจัดประมูลคลื่นความถี่ 3G ขอให้คณะกรรมการติดตามฯ มีส่วนร่วมสนับสนุนเพื่อติดตามในข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ให้ปรากฎ พร้อมชี้แจงอธิบายถึงเหตุผลในสิ่งที่ดำเนินการที่ผ่านมาด้วยความโปร่งใสและความจริงใจต่อสังคม
 
ระเบียบวาระที่    6.2     :   การเดินทางไปศึกษาดูงานเรื่อง USO และ Broadband ณ ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ : กทช.สุรนันท์ฯ
 
มติที่ประชุม                อนุมัติในหลักการให้บุคคลภายนอก (พลเอกสุกิจ ขมะสุนทร  พันเอก รศ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ และนายวรรณชัย สุวรรณกาญจน์) ซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม เดินทางไปศึกษาดูงานด้าน USO และ Broadband  ระหว่างวันที่ 6-14 พฤศจิกายน 2553  ณ ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ร่วมกับ กทช.สุรนันท์ฯ และคณะ ตามที่ กทช.สุรนันท์ฯ เสนอ อย่างไรก็ดี เพื่อความเหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับกรณี พันเอก รศ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ นั้น มอบหมายให้ กทช.สุรนันท์ฯ ไปประสานงานเพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่งตามความเห็นของที่ประชุม ก่อนดำเนินการได้ต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   6.3   :   ขอให้ออกใบอนุญาตตั้งสถานี และใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเป็นการเร่งด่วน  :  รทช.ฐากรฯ, ปธ., รทช.ประเสริฐฯ, ฉก.
 
มติที่ประชุม            
1.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่าการตั้งสถานีอากาศยานและใช้ความถี่วิทยุ เป็นการใช้ความถี่วิทยุในกิจการเคลื่อนที่ทางการบินในเส้นทางพาณิชย์ เพื่อติดต่อสื่อสารกับสถานีทางการบิน (Aeronautical Station) สถานีทางบกวิทยุนำทาง สถานีทางบกวิทยุหาตำแหน่ง สถานีทางบกวิทยุบอกตำแหน่ง และระบบนำร่อนอากาศยานลงสู่พื้นดินซึ่งเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินอากาศและความปลอดภัยของผู้โดยสาร (Air Safety) ซึ่งเป็น Commitment ของประเทศไทยตามกฎหมายต่างประเทศและเป็นมาตรฐานที่ทุกประเทศจะต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ซึ่งหากไม่มีใบอนุญาตดังกล่าว เครื่องบินลำนั้นๆ จะไม่สามารถใช้บินเข้า-ออกประเทศต่างๆ ได้ กอปรกับเป็นความถี่ที่ได้รับการจัดสรรให้ใช้งานไว้เดิม ซึ่งไม่ใช่การจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ และมีความสอดคล้องกับตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ และแผนความถี่วิทยุเดิม ซึ่งยังคงมีผลบังคับอยู่และไม่ได้ถูกยกเลิก รวมทั้งสอดคล้องกับตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งข้อบังคับของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ และการใช้งานปราศจากการรบกวนอย่างรุนแรงต่อ ข่ายสื่อสารอื่นๆ  ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติดังนี้
1.1  อนุมัติให้บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ จำกัด ตั้งสถานีอากาศยาน เครื่องหมายทะเบียน HS-STC กำลังส่งไม่เกิน 1,000 วัตต์ และใช้เครื่องวิทยุคมนาคม จำนวน ๑๙ เครื่อง เพื่อความปลอดภัยในการเดินอากาศ
1.2  อนุมัติให้บริษัท ภูเก็ต แอร์ไลน์ จำกัด ตั้งสถานีอากาศยาน  เครื่องหมายทะเบียน HS-AKS กำลังส่งไม่เกิน 1,000 วัตต์ และใช้เครื่องวิทยุคมนาคม จำนวน 19 เครื่อง เพื่อความปลอดภัยในการเดินอากาศ     
1.3  มอบหมายให้ประธาน กทช. เป็นผู้ลงนามใบอนุญาตตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 ต่อไป
2.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปจัดทำรายละเอียดข้อวิเคราะห์ข้อมูลในประเด็นมาตรฐานสากลด้านการบินต่างๆ เพิ่มเติมในเอกสารประกอบวาระให้ครบถ้วนสมบูรณ์
 
หมายเหตุ               กทช.สุธรรมฯ เห็นด้วยกับความเห็นของที่ประชุม แต่ขอสงวนสิทธิ์การออกเสียงในวาระนี้ (Abstain) เนื่องจากอยู่ในระหว่างรอคำวินิจฉัยของประธานศาลปกครองสูงสุด

สร้างโดย  -   (8/3/2559 18:28:52)

Download

Page views: 165