กสทช. จับมือ สตช. กวาดล้างสถานีโทรคมนาคมและเสาสัญญาณเถื่อนแนวชายแดน เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย

      วันที่ 16 สิงหาคม 2566 พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านป้องกันและปราบปราม, นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการ เลขาธิการ กสทช., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. สอท., นายสุธีระ พึ่งธรรม ผอ.สำนักกิจการภูมิภาค, นายจาตุรนต์ โชคสวัสดิ์ ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม,  พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 และ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สำนักงาน กสทช. และ สอท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมและเสาสัญญาณผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบส่งสัญญาณโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์ ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบัน
      เนื่องจากเป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มแก๊งมิจฉาชีพได้อาศัยตะเข็บชายแดนเป็นแหล่งกบดานและเป็นฐานก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อคนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ โดยอาศัยสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณมือถือที่กระจายสัญญาณจากฝั่งไทย โดยมีการลักลอบตั้งสถานีวิทยุคมนาคมเถื่อน กระจายสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตเกินเขตราชอาณาจักร กสทช. ได้ร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามตรวจสอบการประกอบกิจการโทรคมนามคมของผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. และ ตรวจค้นจับกุมการตั้งสถานีวิทยุคมนาคมที่ไม่ได้รับอนุญาตตามแนวชายแดน เพื่อตัดปัจจัยอันเป็นนองค์ประกอบสำคัญของการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจพบว่า พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จว.สระแก้ว มีการตั้งสถานีโทรคมนาคมและเสาสัญญาณผิดกฎหมายหลายแห่ง จึงได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายศาล จนนำไปสู่การจับกุมในวันนี้ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
      กรณีที่ 1 เข้าจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และหันทิศทางสายอากาศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 4 สถานี เป็นความผิดฐาน “มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมและตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต” ตามมาตรา 6 และ 11 แห่ง พรบ.วิทยุคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และความผิดฐาน “ประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่ได้อนุญาต” ตามมาตรา 67 (1) แห่งพรบ.ว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท พร้อมทั้งจับกุมผู้กระทำผิด จำนวน 2 ราย ในการนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ทำการรื้อถอนสถานีวิทยุคมนาคมผิดกฏหมายดังกล่าวทั้งหมด และทำการยึดอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใช้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. คลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  
      กรณีที่ 2 พบการตั้งสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ และหันทิศทางสายอากาศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำให้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ข้ามเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเหตุให้พื้นที่การให้บริการ (Service Area) ของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเกินกว่าอาณาเขตพื้นที่ประเทศไทย และล่วงล้ำไปยังอาณาเขตประเทศข้างเคียง โดยตรวจสอบพบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่เข้าลักษณะดังกล่าว จำนวน ๒๓ สถานี ในกรณีนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมทั้งหมด เร่งแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยให้ถอนการติดตั้งสายอากาศบางจุด หรือ ปรับทิศทางสายอากาศ หรือ ดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด มิให้แพร่สัญญาณคลื่นความถี่ออกนอกเขตพื้นที่ประเทศไทย เพื่อให้พื้นที่การให้บริการ (Service Area) อยู่ภายในอาณาเขตพื้นที่ประเทศไทย
      นอกจากนี้ ชุดปฎิบัติการ สำนักงาน กสทช. และ สอท. ได้ตรวจสอบพบการจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนการใช้งานโดยใช้ชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ใช้งานที่แท้จริงเพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลอื่น จำนวน 50 ซิมการ์ด ในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ จึงได้เข้าตรวจยึดซิมการ์ดดังกล่าว และดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายซิมการ์ด ซึ่งเป็นความผิด ตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา
      ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ สำนักงาน กสทช. จะร่วมกันปฏิบัติการกับ สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ สแกนพื้นที่บริเวณชายแดนในเขตจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด และขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้แก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เข้าถึงสัญญาณโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตได้ เป็นตัดแขนตัดขาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ให้กระทำการได้สะดวก ลดการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป
               
 

สร้างโดย  -   (16/8/2566 14:20:14)

Download

Page views: 331